บริษัท มาสเตอร์ทีม จำกัด

ที่ปรึกษา ประกันภัย รับอนุญาต กลุ่มวิศวกร ที่มีพื้นฐานอาชีพ เป็นผู้ออกแบบระบบ เป็นผู้เชี่ยวชาญ ประกันภัยชนิดพิเศษ

ข่าวสาร ประกันภัย

05-05-2017

วาระร้อน ขับเคลื่อน ประกันภัย รับยุคดิจิทัล

เวที CEO Insurance Forum 2017 มุ่งขับเคลื่อนนโยบาย ประกันภัย ยุคดิจิทัล รักษาสมดุล การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม

คปภ. ผนึกกำลังภาคธุรกิจ ประกันภัย จัดประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย ประจำปี 2560 (CEO Insurance Forum 2017) มุ่งขับเคลื่อนนโยบายการ ประกันภัย ในยุคดิจิทัล รักษาสมดุลระหว่าง การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการ ประกันภัย และส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมดิจิทัล ในอุตสาหกรรม ประกันภัย ผ่านการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม ประกันภัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมถึงเพิ่มบทบาทของธุรกิจ ประกันภัย ให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกล่าวเปิดประชุม ผู้บริหารระดับสูงด้านการประกันภัย ประจำปี 2560 (CEO Insurance Forum 2017) และได้แสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “บริบทใหม่กับการขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล” โดยย้ำว่า บริบทของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยได้เปลี่ยนไปจากเดิม ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของคนในสังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่เกิดขึ้น ประกอบกับนโยบายของภาครัฐ ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ประกันภัย อาทิ การสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ประกันภัย โดยมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปฏิวัติรูปแบบการทำธุรกิจ หรือที่เรียกกันว่า “InsurTech” ทั้งในด้านของผลิตภัณฑ์ ประกันภัย การให้บริการ การบริหารจัดการ รวมไปถึงสร้างช่องทางการเข้าถึงผู้เอา ประกันภัย ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายที่จะต้องมีการกำกับดูแลระบบ ประกันภัย ให้เป็นไปอย่างรอบคอบ โดยสำนักงาน คปภ.และภาคธุรกิจ ประกันภัย ควรใช้ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงบริบทของการแข่งขันนี้ ผลักดันให้ธุรกิจ ประกันภัย มีการขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืน และได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน ตลอดจนสามารถเพิ่มบทบาทในระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพที่ดีของประชาชนผ่านระบบ ประกันภัย

ด้าน เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า การประชุมผู้บริหารระดับสูงด้านการ ประกันภัย ซึ่งมีการจัดประชุมครั้งแรก เมื่อปี 2559 โดยผลจากการประชุมครั้งแรกนั้น ได้นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรม ประกันภัย อาทิ การปรับปรุงกฎหมายแม่บท ด้านการ ประกันภัย โดยครอบคลุมถึงการป้องกันการฉ้อฉลในธุรกิจ ประกันภัย การออกประกาศ คปภ. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการออกกรมธรรม์ ประกันภัย การเสนอขายกรมธรรม์ ประกันภัย การชดใช้เงินตามสัญญา ประกันชีวิต โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2560 และประกาศ คปภ.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการออกกรมธรรม์ ประกันภัย การเสนอขายกรมธรรม์ ประกันภัย การชดใช้เงินและค่าสินไหมทดแทนตามสัญญา ประกันภัย

สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการจัดประชุม CEO Insurance Forum ครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากผลการประชุมครั้งแรก โดยนอกจากการแสดงปาฐกถาพิเศษของ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแล้ว ยังมีการบรรยายพิเศษเรื่อง “การกำกับธุรกิจประกันภัยในเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล” โดย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ซึ่งพูดถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ภายใต้นโยบาย “Thailand 4.0” ความท้าทายของธุรกิจ ประกันภัย ตลอดจนทิศทางในการส่งเสริมธุรกิจ ประกันภัย เพื่อจะยกระดับมาตรฐานสู่สากล นอกจากนี้อีก Highlight ที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อเปิดโอกาสให้มีการอภิปราย ระดมความคิดเห็นมาสู่ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ โดยแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนากฎหมาย การควบคุมและการบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัยในยุคดิจิทัล” เพื่อหาแนวทางและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉล ประกันภัย ที่เหมาะสมภายใต้บริบทของกฎหมาย ประเด็นหลักในการประชุม ประกอบด้วย ข้อมูลรูปแบบ หรือปัญหาเกี่ยวกับการฉ้อฉล ประกันภัย ทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เคยประสบหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ขอบเขตของร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย เกี่ยวกับการฉ้อฉล ประกันภัย และประกาศ คปภ.ว่าด้วยการออกกรมธรรม์ ประกันภัย การเสนอขายกรมธรรม์ ประกันภัย และการชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทน โดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ และกลไกหรือมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฉ้อฉล ประกันภัย

กลุ่มย่อยที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “การกำกับและพัฒนาธุรกิจประกันภัยด้วย Regulatory Sandbox” เพื่อกำหนดแผนในการกำกับและดำเนินธุรกิจในอนาคต รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับภาคธุรกิจ และบริษัท Fintech เกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรมในต่างประเทศ โดยมีประเด็นหลักในการประชุม คือ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการ Insurance Regulatory Sandbox ของบริษัท ประกันภัย และแนวทางการพัฒนานวัตกรรมของภาคอุตสาหกรรม ประกันภัย อย่างเหมาะสม และเกิดประสิทธิภาพ

กลุ่มย่อยที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการทำธุรกิจประกันภัย” เพื่อสร้างโอกาสและมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้บริหารระดับสูง และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่ดี เพื่อให้บริษัทนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นหลักในการประชุม คือ การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ และการกำหนดแนวทางการกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจ ประกันภัย ของสำนักงาน คปภ.

กลุ่มย่อยที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “การยกระดับพฤติกรรมทางการตลาดและการคุ้มครองสิทธิประโยชน์” เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับการกำกับพฤติกรรมทางการตลาดและการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ประเด็นหลักในการประชุม คือ แนวทางและบทบาทหน้าที่ในการพัฒนาการกำกับและตรวจสอบคนกลาง ประกันภัย และการควบคุมคุณภาพการให้บริการ การพัฒนามาตรฐานระบบการจัดการสินไหม และการจัดการเรื่องเรียกร้องด้านการ ประกันภัย รวมทั้งการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านการ ประกันภัย แก่ประชาชน

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายยังได้เปิดเวทีเสวนา เกี่ยวกับนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) และบทบาทหน้าที่ของกรรมการในธุรกิจ ประกันภัย และบริหารความเสี่ยง โดย กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) บรรยายในหัวข้อเรื่อง “กรรมการมืออาชีพกับความสำเร็จของธุรกิจ” เพื่อให้กรรมการของบริษัท ต้องมีการบริหารจัดการที่ดี มีธรรมาภิบาลในองค์กร และมีความรับผิดชอบที่พึงมีต่อผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรม ประกันภัย เติบโตอย่างยั่งยืน

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า การประชุม CEO Insurance Forum ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ ประกันภัย ในการผนึกกำลังขับเคลื่อนนโยบายการ ประกันภัย สู่ยุคดิจิทัล ซึ่งทุกความคิดเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะ จะนำมาใช้แบบบูรณาการ เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์กับอุตสาหกรรม ประกันภัย ของไทย มีการพัฒนาอย่างก้าวหน้า ทั้งนี้กฎกติกาและการบริหารจัดการจะต้องคำนึงถึงหลักการสำคัญ ได้แก่ ความสมดุล ความยืดหยุ่น และการปรับตัวให้เหมาะสม รวมทั้งการทำงานในเชิงรุก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรม ประกันภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต

ที่มา : สยามธุรกิจ