ที่ปรึกษา ประกันภัย รับอนุญาต กลุ่มวิศวกร ที่มีพื้นฐานอาชีพ เป็นผู้ออกแบบระบบ เป็นผู้เชี่ยวชาญ ประกันภัยชนิดพิเศษ
28-08-2015
ประกันรถยนต์ก็มี ทำไมเคลมไม่ได้
คิดว่าหลายๆ ท่านคงเคยเจอการที่เรามีประกันภัยรถยนต์ เกิดอุบัติเหตุ แต่ว่ากลับเคลมประกันไม่ได้ จริงๆ แล้วการเคลมประกันไม่ผ่านมีหลายสาเหตุด้วยกันครับ
วันนี้ MoneyGuru.co.th นำรายละเอียดของการเคลมระบบ Cash before Cover จากทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. มาฝากกันครับ
ประกันภัยรถยนต์
หลักการ Cash before Cover ก็คือ การจ่ายก่อน คุ้มครองทีหลัง นั่นเองครับ วิธีการก็ตรงตามคำแปล คือ เมื่อคุณเลือกทำประกันภัยรถยนต์แล้ว คุณก็จะต้องชำระค่าเบี้ยประกันให้ตัวแทนประกันภัยก่อน แล้วจะได้รับความคุ้มครองตามกำหนดในกรมธรรม์แบบภาคสมัครใจ
ขั้นตอนการซื้อประกันภัยเปลี่ยนไปอย่างไร?
1.สัญญาประกันภัยจะมีผลทันทีที่ผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยและบริษัทต้องออกหลักฐานการรับชำระเบี้ยประกันภัยทันที เมื่อผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยแก่ตัวแทนประกันภัย พนักงานและนายหน้าประกันภัยผู้ได้รับมอบอำนาจให้รับชำระเบี้ยประกันภัย ตลอดจนบุคคล หรือนิติบุคคล ที่บริษัทยอมรับการกระทำของบุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่าวเสมือนตัวแทนของบริษัท ให้ถือว่าเป็นการชำระเบี้ยประกันภัยแก่บริษัทโดยถูกต้อง
2.ตัวแทนประกันภัย ต้องแสดงใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันภัยทุกครั้งที่มีการชักชวนบุคคลทำสัญญาประกันภัย หรือรับเบี้ยประกันภัยในนามของบริษัทประกันภัย
3. นายหน้าประกันภัยหรือพนักงานของบริษัท ต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจจากบริษัททุกครั้งที่มีการรับเบี้ยประกันภัยในนามบริษัทประกันภัย และต้องออกเอกสารแสดงการรับเงินของบริษัททุกครั้งที่มีการรับชำระเบี้ยประกันภัย
4. กรณีบริษัทประกันภัยไม่สามารถออกกรมธรรม์ประกันภัยได้ทันที บริษัทต้องจัดส่งกรมธรรม์ประกันภัยให้ผู้เอาประกันภัยภายใน 15 วัน
ข้อดีของการใช้ระบบ Cash before Cover
1.สัญญาประกันภัยมีผลทันที เมื่อบริษัทประกันภัยได้รับหลักฐานการชำระเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกัน
2.ลดโอกาสการเกิดข้อพิพาทระหว่างผู้เอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย เพราะปัจจุบัน การซื้อขายประกันรถยนต์ผ่านทางโทรศัพท์ และระบบออนไลน์กันมากขึ้น การทำประกันภัยลักษณะนี้มีความเสี่ยงที่จะมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วผู้เอาประกันต้องการเคลมประกัน เพราะทางผู้เอาประกันต้องรอให้บริษัทประกันภัยส่งกรมธรรม์ให้ถึงมือก่อนถึงจะแจ้งเคลมได้
3.ช่วยป้องกันบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทประกันภัยกรณีไม่ได้รับเบี้ยประกันจากผู้เอาประกันภัยนั่นเอง
4.ช่วยป้องกันการฉ้อโกงของผู้ขายประกัน ป้องกันการรับเงินของลูกค้า แล้วไม่นำส่งบริษัทประกันภัย ซึ่งจะทำให้ผู้เอาประกันเกิดความเสียหาย เสียทรัพย์ เสียผลประโยชน์ได้
5.ลดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่ผู้เอาประกันยังไม่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัย หรือหลักฐานการชำระเบี้ยประกันภัย กรณีนี้หากเกิดอุบัติเหตุ ก็จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายทันที ไม่ต้องรอพิสูจน์ ว่าบริษัทรับประกันภัยแล้วหรือยัง
6.เพิ่มสภาพคล่องแก่บริษัทประกันภัย และสนับสนุนให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
ทำไมบางทีเคลมประกันไม่ได้
จริงๆ แล้วการที่เราไม่สามารถเคลมประกันภัยรถยนต์ได้นั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
1.กรอกแบบฟอร์มการเคลมไม่ครบถ้วน ระบุรายละเอียดไม่ครบถ้วน จงใจไม่เปิดเผยข้อมูล หากเกิดความผิดพลาด บริษัทจะไม่สามารถอ้างอิงได้ว่าคุณเป็นผู้ให้ข้อมูล ทำให้เรียกจ่ายค่าชดใช้ไม่ได้
2.ส่งหลักฐาน หรือเอกสารไม่ครบถ้วน อาจจะทำให้การดำเนินเรื่องการเคลมช้าลง หรือเดินเรื่องต่อไม่ได้ อาจจะข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่เพียงพอ
3.ช่องโหว่ความคุ้มครองของกรมธรรม์ บางครั้งอาจจะเป็นช่องโหว่ของข้อกำหนดความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่เราไม่ทันสังเกต อาจจะเพราะอ่านไม่ละเอียดพอ ไม่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อทำความเข้าใจ หากเป็นกรณีนี้ก็ต้องทำใจ เพราะอาจจะทำอะไรไม่ได้ (ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงไปแล้วกันครับ)
4.เงื่อนไขอยู่นอกเหนือกรมธรรม์ (เป็นสาเหตุที่เราควรจะต้องอ่านรายละเอียดประกันให้ชัดเจนแน่นอนก่อนตัดสินใจครับ)
5.ใช้ยานพาหนะนอกเหนือจากจุดประสงค์การใช้งานไม่ว่าจะเป็นส่วนตัว หรือเชิงพาณิชย์ ดังนั้นเราควรระบุรายละเอียดการใช้งานในใบแจ้งเคลมให้ชัดเจนด้วยครับ
6.ใช้ชื่อคนอื่น โดยไม่ได้เป็ื่อคนขับรถหลักของรถยนต์คันนั้นๆ ไม่ว่าจะเพื่อลดเบี้ยประกัน หรืออะไรก็ตาม แต่ถือว่าเป็นการแอบอ้าง และเข้าข่ายหลอกลวงบริษัทประกันภัย กรณีนี้ ทางบริษัทประกันภัยไม่จำเป็นจะต้องรับประกันได้ ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ครับ
7.ไม่มีใบขับขี่ หากเราไม่มีใบขับขี่ ก็ไม่ควรขับรถครับ นอกจากจะผิดกฎหมาย โดนจับต้องจ่ายค่าปรับแล้ว ยังมีผลเสียต่อการเคลมประกันด้วย ดังนั้น ต่อใบขับขี่เป็นประจำ หายรีบแจ้ง แล้วทำบัตรใหม่นะครับ
8.ขับรถผิดกฎจราจร หรือขับรถโดยประมาท หากบริษัทประกันสืบทราบรายละเอียดสิ่งที่คุณแจ้งมาตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ หากคุณกระทำผิดกฎหมาย ขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าไฟแดง หรือขับสวนเลน แล้วเกิดอุบัติเหตุ คุณก็จะโดนปฏิเสธการเคลมประกันได้ครับ
9.แจ้งข้อมูลเท็จ เช่น หากคุณมีการแต่งเติมรถยนต์ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม แล้วไม่ได้แจ้งให้บริษัทประกันทราบทุกครั้งที่มีการต่อเติม แต่งเติมรถยนต์ (เพื่อที่ทางบริษัทประกันจะได้คำนวณ และประเมินเบี้ยประกันใหม่) เกิดอุบัติเหตุแล้วทางพนักงานประกันตรวจพบว่ามีการตกแต่งเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งบริษัทประกัน หรือแจ้งข้อมูลความเสียหายเกินจริง ถือว่าเป็นการแจ้งข้อมูลเท็จ และทางบริษัทประกันจะสามารถปฏิเสธการเคลมประกันได้ตามกฎหมายครับ
10.ไม่จ่ายเบี้ยประกัน รายเดือน รายปี อันนี้คงไม่มีใครยอมรับประกันให้แน่นอนครับ
ที่มา : http://www.prachachat.net/